กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับโซลาร์รูฟท็อปในประเทศไทย
ประเทศไทยมีกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับโซลาร์รูฟท็อปอยู่หลายฉบับ ดังนี้
- พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มาตรา 48 กำหนดให้กิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้รับการยกเว้นการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน
- ประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) พ.ศ. 2565 กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) ประเภทบ้านอยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ และอาคารราชการและรัฐวิสาหกิจ
- ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดประเภทอาคารที่เจ้าของอาคารสามารถติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) โดยไม่ต้องขออนุญาตก่อสร้างเพิ่มเติม พ.ศ. 2565 กำหนดประเภทอาคารที่เจ้าของอาคารสามารถติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปโดยไม่ต้องขออนุญาตก่อสร้างเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยผังเมือง และกฎหมายว่าด้วยการจัดการกากอุตสาหกรรม
ข้อควรปฏิบัติในการขออนุญาตติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป
ผู้ที่ต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยหลักๆ แล้ว จะต้องดำเนินการดังนี้
- ศึกษากฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องให้เข้าใจ
- ตรวจสอบว่าอาคารที่จะติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปนั้นเป็นไปตามประเภทอาคารที่ไม่ต้องขออนุญาตก่อสร้างเพิ่มเติมหรือไม่
- ออกแบบและติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปโดยปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย
- ยื่นขออนุญาตติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ประโยชน์ของกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับโซลาร์รูฟท็อป
กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับโซลาร์รูฟท็อปมีประโยชน์ ดังนี้
- ส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและยั่งยืน
- ช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
- ช่วยลดมลพิษทางอากาศ
- ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า
กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับโซลาร์รูฟท็อปเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ